การเลือกซื้อวิทยุสื่อสาร
การเลือกซื้อวิทยุสื่อสาร
ผู้เขียนมุ่งเน้นให้ผู้ที่จะเลือกซื้อเลือกใช้วิทยุสื่อสาร ได้เห็นถึงความสำคัญในการเลือกซื้อเพื่อให้เหมาะสมกับงานที่ท่านผู้อ่านจะใช้ ซึ่งการเลือกซื้อวิทยุสื่อสารมีความสำคัญอย่างยิ่ง วิทยุสื่อสารในท้องตลาด ณ ปัจจุบันมีมากมายหลายยี่ห้อ หลายรุ่น หลายราคา และหลายมาตรฐานการใช้งาน คราวนี้เรามาดูกันว่าจะซื้อวิทยุสื่อสารกันอย่างไร
อันดับแรก เราต้องเช็คตัวเราเองก่อนว่าเราต้องงานใช้งานแบบไหน ประเภทที่นำไปใช้งานเป็นอย่างไรผู้เขียนจะจำแนกประเภทลักษณะการใช้งานออกเป็นประเภทดังนี้
1. ใช้งานทั่วไป เช่น ใช้ติดต่อภายในสำนักงาน งานอีเว้นท์ กรุ๊ปทัวร์ ใช้ระหว่างการเดินทาง ซึ่งงานประเภทนี้ ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องที่ราคาสูงมากนัก เนื่องจากงานที่ใช้เป็นงานแบบธรรมดาทั่วไป ไม่ต้องการความทนทานของตัวเครื่องมากนัก ดังนั้น การเลือกซื้อควรเลือกซื้อวิทยุสื่อสารที่ราคาไม่สูงมากนัก ซึ่งตามท้องตลาดจะมีราคาตั้งแต่ พันกว่าบาทขึ้นไป ก็สามารถใช้งานได้เป็นอย่างดีแล้ว
2. ใช้งานที่ต้องอยู่กลางแจ้ง เช่น งานรักษาความปลอดภัย งานขนส่ง งานสำรวจ ผู้ใช้งานกลุ่มนี้ ควรใช้วิทยุสื่อสารที่ต้องมีความแข็งแรงขึ้นมาอีกหน่อย ต้องคำนึงถึงว่าจะต้องมีบ้างที่จะต้องโดนฝน ละอองฝุ่น ควรเลือกซื้อเครื่องวิทยุสื่อสารที่มีความแข็งแรงทนทานขึ้นมาอีกหน่อยนึง ราคาเครื่องจะมีราคาตั้งแต่ สองพันกว่าบาทขึ้นไป
3. ใช้งานที่ต้องการความคงทนแข็งแรง เช่น งานก่อสร้างต่างๆ งานที่ต้องใช้ภายในห้องเย็นที่มีอุณหภูมิต่ำ งานประเภทนี้เป็นที่ใช้เครื่องวิทยุสื่อสารที่ต้องการเครื่องที่มีความสมบุกสมบัน สูง เนื่องจากลักษณะงานที่ทำอยู่ ต้องอยู่ทั้งกลางแจ้ง กลางฝน กลางฝุ่นละออง ถ้าเราเลือกซื้อเครื่องที่มีราคาถูกรับรองได้ว่าไม่เกินสองสามเดือนต้องวิ่งหาซื้อวิทยุสื่อสารใหม่ คำถามคือแล้วจะรู้ได้อย่างไรละว่าเครื่องไหนแข็งแรงทนทาน ราคาหรือเปล่า ยิ่งราคาสูงยิ่งแข็งแรง อันนี้บอกได้เลยว่าไม่ใช่เสมอไป ถ้าผู้อ่านจะเลือกซื้อเครื่องประเภทนี้ มีคำตอบเดียวเลย คือ วิทยุสื่อสารที่แข็งแรงทนทาน จะมีมาตรฐานที่สำคัญในการ การันตี คือ มาตรฐาน MIL-STD 810 ซึ่งเป็นมาตรฐานของทหารสหรัฐอเมริกา พูดภาษาชาวบ้านคือ เครื่องที่ผ่านมาตรฐาน พวกนี้จะต้อง ดรอฟเทส (ปล่อยตกจากที่สูงประมาณ 1.50 เมตรได้) ทนละอองน้ำละอองฝุ่น ทนความเย็น และอีกมากมายตามมาตรฐานนี้ ซึ่งเครื่องแบบนี้ราคาไม่จำเป็นต้องสูงเสมอไป ณ ปัจจุบัน วิทยุสื่อสารแบบนี้จะมีอยู่ในตลาดไม่กี่ยี่ห้อมีโรงงานผลิตเป็นของเจ้าของยี่ห้อเอง ผู้เขียนขอยกตัวอย่างให้สักสองยี่ห้อ คือ HYT MOTOROLA ICOM ยี่ห้อหลังนี้ผู้เขียนยังก้ำกึ่งว่าได้มาตรฐานหรือไม่ ราคายังพอซื้อได้ไม่แพงมากเริ่มต้นตั้งแต่ สามพันกว่าบาทจนถึงหกพันกว่าบาท
หลังจากเรารู้ความต้องการในการใช้เครื่องวิทยุสื่อสารแล้วคราวนี้เรามาดูกันว่าจะซื้อวิทยุสื่อสารจากห้างร้านไหนดีซึ่งปัจจุบันร้านวิทยุสื่อสารมีอยู่มากมายขายทางเวปไซค์ มีหน้าร้านบ้างไม่มีหน้าร้านบ้างดังนั้นจะซื้อวิทยุสื่อสารจากแหล่งใดควรพิจารณาดังนี้
1. ห้างร้านนั้นมีหน้าร้านหรือมีตัวตนหรือไม่ ถ้าซื้อจากร้านค้าที่ไม่มีหน้าร้านไม่มีตัวตน สิ่งที่ต้องพึงระวังคือสินค้ามีรับประกัน 1 ปี ถ้าไม่มีตัวตนหรือหน้าร้าน แล้วถ้าเครื่องเสียจะยังอยู่ให้เราส่งซ่อมหรือส่งเครมหรือไม่ ซื้อมาราคาถูกแต่หาคนขายไม่เจออันนี้ ทางผู้เขียนเคยเจอครับ
2. มีสินค้าเพียงพอต่อความต้องการหรือไม่ ถ้าไม่มีสินค้าที่เพียงพอ ไม่มีสต็อคสินค้า ซื้อมาขายไป คราวนี้แนะนำอีกรุ่น คราวต่อมาแนะอีกรุ่นอีกยี่ห้อ ทั้งๆที่รุ่นเดิมก็ใช้ดีอยู่แล้ว ตกลงรุ่นไหนมีกว่ากัน
3. มีศูนย์ซ่อมหรือศูนย์บริการเป็นของร้านเองหรือไม่ ร้านวิทยุสื่อสารส่วนใหญ่มีการรับประกัน ตอนจะขายโชว์ศักยภาพ สร้างภาพหน้าเวป ว่าร้านใหญ่ก็มากมายครับ แต่เครื่องเสียมา โน่นเลยครับส่งให้ผู้นำเข้าซ่อมบ้าง ให้ร้านที่ใหญ่กว่าซ่อมบ้างคราวนี้ผู้ซื้อจะต้องเจออะไรอย่างแรกเลยครับ ช้าเป็นเดือนกว่าจะได้รับเครื่องคืน ซ่อมมาก็ไม่หายเหมือนเดิม ดังนั้นอีกสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเลย มีศูนย์ซ่อมที่ได้มาตรฐาน มีช่างซ่อมประจำร้านหรือไม่ เพราะข้อนี้เป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรลืมได้เลยครับ
ประการสุดท้ายครับเมื่อพิจารณา ประเภทเครื่อง พิจารณาร้านค้า สิ่งสำคัญที่สุดครับ วิทยุสื่อสารที่ท่านเลือกซื้อนำเข้ามาจำหน่ายถูกต้องหรือไม่ แล้วจะดูอย่างไรละว่าถูกต้อง ไม่ถูกหลอกให้ซื้อของปลอม เพราะวิทยุสื่อสารบ้านเราถือเป็นยุทธปัจจัยเลยครับ ซื้อเครื่องผิดติดคุกเสียค่าปรับมาก็มากครับ สิ่งแรกที่เราต้องถามผู้ขายคือ เครื่องนำเข้าถูกต้อง มีตราครุฑ กสทช หรือไม่ ถ้าไม่มีแล้วซื้อมาใช้ ก็เหมือนแหย่ขาเข้าไปในคุกข้างนึงแล้วครับ
ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์สำหรับผู้กำลังจะเลือกซื้อวิทยุสื่อสารเป็นอย่างยิ่ง